12/08/2011

Korat Hotel โรงแรม โคราช โฮเทล ใน นครราชสีมา หาที่พักโคราช จองโรงแรมโคราช

Nakhon Ratchasima, das Tor zum Osten mit dem Land in der Mitte der Süd-Ost entfernt. Und mit einem Abstand von nur 259 km von Bangkok entfernt. Ob Sie zum Verweilen am Seminar für Tourismus über Nacht entscheiden. Um sich zu entspannen. Für Geschäftsreisende. Oder um das Symposium. Und auf der Suche nach einem Standard-Hotel mit moderner Ausstattung. Moderne Sicherheits-Systeme, die gewährleisten. Und ist entlang der Mitte der Korat Atsadang entfernt. Kosten einer vollständigen Palette von Dienstleistungen. Im Herzen von Korat ist eine Fläche von über 5 Hektar großen Zimmer mit allen Einrichtungen von 105 Standard-Zimmer mit modernen Annehmlichkeiten TV, Mini-Kühlschrank mit Getränken. Warmes Wasser in der Dusche mit Bad ausgestattet.
Nur 5 Gehminuten von Ya Mo beten. (Thao Suranaree Denkmal).
Nur 5 Minuten zu Fuß zu besuchen und Shop an der Night Bazaar.
Nur 1 Minute zu Fuß über die Straße, um die Bedürfnisse der trockenen lagern Lagern Plaza (10.00 - 21.00 Uhr) zu kaufen.
Nur eine halbe Minute, können Sie das Hotel Family Mart Supermarkt (24 Stunden geöffnet).

   
Nakhonratchasima die im Zentrum des südlichen Isan und nur 259 km situiert. weg von Bangkok ist das Tor zum Isan. Auf jeder Reise sind Sie, Touring, verbringen Urlaub, Geschäftsreise oder Konferenz-und Seminarräume, ist Korathotel die beste Sie suchen. Am 5. rai Bereich ist dies Standard-Hotel mit guter Sicherheit System und alle Annehmlichkeiten wie TV, Mini-Kühlschrank mit Getränken, heißem Wasser und eine Badewanne. Darüber hinaus ist es auf Assadang Straße im Herzen der Stadt. Alle diese können Sie in der Economy-Preis zu bekommen.
  
Nur 5 Gehminuten sind Sie gehen zu huldigen Ya Mo (Tao Suranaree Monument) bezahlen können.
  
Nur 5 Minuten zu Fuß können Sie am Night Bazaar Markt einkaufen.
  
Nur 1 Minute Fußweg man sich Klang Plaza Departmentstore einkaufen können (geöffnet 10.00.-21,00).
  
Und nur die Hälfte Gehminuten sehen Sie das Lebensmittelgeschäft (Family Mart) vor dem Hotel.
  
KR Kaffee-Ecke wird empfohlen. Hier können Sie peppen Ihre jede Zeit des Tages mit reichem Geschmack und Duft frischen Kaffees in Garten-Atmosphäre. 



 Room Price Start 790 Bath 



12/06/2011

โรงแรมราชพฤกษ์ แกรนด์ โฮเทล นครราชสีมา Rachaphruk Grand Hotel.

ราชพฤกษ์ แกรนด์ โฮเทล นครราชสีมา

 ตั้งอยู่ใกล้ ถนนมิตรภาพ อ. เมือง จ.นครราชสีมา คุณจะได้พบกับโรงแรมที่ บรรยากาศร่มรื่น ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวก ทั้งการเดินทาง ที่จับจ่าย ช๊อปปิ้ง แหล่งของฝาก ราชพฤกษ์ แกรนด์ โฮเทลความสุขที่ไร้ขีดจำกัด
 
 เพียง 15 นาที ท่านสามารถเดินทางจากโรงแรม ราชพฤกษ์ แกรนด์ โฮเทลไปไหว้ขอพรย่าโม (อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี)

เพียง 15 นาที ท่านสามารถเดินทางจากโรงแรม ราชพฤกษ์ แกรนด์ โฮเทล ไปชมและช้อปที่ตลาดไนท์บาซ่า

เพียง 10 นาที ท่านสามารถเดินทางจากโรงแรม ราชพฤกษ์ แกรนด์ โฮเทล ไปจับจ่ายของใช้จำเป็นที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ (10.00 น.- 21.00 น.)

เพียง 10 นาที ท่านสามารถเดินทางจากโรงแรม ราชพฤกษ์ แกรนด์ โฮเทล ถึง สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งแรก (บขส.เก่า)

เพียง 15 นาที ท่านสามารถเดินทางจากโรงแรม ราชพฤกษ์ แกรนด์ โฮเทล ถึง สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่สอง (บขส.ใหม่) ที่มีรถบริการไป ภาคเหนือ(เชีียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ ฯลฯ) อิสาน(สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น เลย ฯลฯ) ตะวันออก(พัทยา ชลบุรี ระยอง ฯลฯ) เวียงจันทร์(ประเทศ ลาว)

โรงแรม ราชพฤกษ์ แกรนด์ โฮเทล ราคาห้อง เริ่มที่ 1180 บาท


                             โรงแรม ที่พักและอาหารเช้า, รีสอร์ต, เก้สเฮาส์และที่พักราคาประหยัดอื่นๆ รวมถึงโฮมสเตย์ เซอร์วิสอพาทเม้นท์ ห้องพัก บ้านพัก ลานกางเต๊นท์ กิจกรรมท่องเที่ยว ทัวร์ ตั๋วโดยสาร ตั๋วต่างๆ ไกด์ นำเที่ยวKorat Hotel โรงแรม โคราช โฮเทล ใน นครราชสีมา หาที่พักโคราช จองโรงแรมโคราช
www.teepaklakroi.tk mujryds]ydihvp ที่พักหลักร้อย โรงแรม รีสอร์ท จองเดี๋ยวนี้ ราคาพิเศษ เฉพาะจองผ่านเว็บ เท่านั้น (ถูกกว่าใคร ถูกกว่า Walking แน่นอน :)
  • Teepaklakroi
  • Hotels Booking .Biz
  • ที่พักหลักร้อย
  • Korat Hotel โรงแรม โคราช โฮเต็ล KR Hotel.

     KORAT HOTEL NAKHONRATCHASIMA. โรงแรม โคราช โฮเต็ลตั้งอยู่ที่ เลขที่ 191ถ.อัษฎางค์ ต.ในเมือง ดินแดนแห่งประตูสู่อีสานด้วยทำเลที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางของอีสานตอนใต้ และด้วยระยะทางเพียง 259 กม. จากกรุงเทพมหานคร

    โรงแรมโคราช โฮเต็ล    
    191 ถ.อัษฎางค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา 30000
    การเดินทางจากกรุงเทพ สู่ นครราชสีมา
    ด้วยระยะทางเพียง 259 กม. ไม่ว่าท่านจะตัดสินใจพักค้างคืนที่จังหวัดนครราชสีมาเพื่อการท่องเที่ยว เพื่อการพักผ่อน เพื่อการติดต่อธุรกิจ หรือเพื่อการประชุมสัมมนา และกำลังมองหาโรงแรมระดับมาตรฐานที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทันสมัยมีระบบรักษาความปลอดภัยที่มั่นใจได้ และตั้งอยู่ริมถนนอัษฎางค์ใจกลางเมืองโคราช ในราคาประหยัด โคราช โฮเต็ล คือคำตอบที่สามารถรองรับความต้องการของทุกท่านได้อย่างครบวงจร
              Nakhon Ratchasima is a gateway to the Northeast and is about 259 km. from Bangkok, approximately three hours drive
              For tourist, business or pressure, Korat Hotel is the place for you. centrally located in dowtown and business area on Asdang Road with  105 rooms and reasonable rate. Great accomodation and variety of services: seminar and Banquet room, pub & restaurat, Karaoke, Barber, Discotheque, and many more. Korat Hotel is Korat's choice for convenient, excellent service, cleanliness and safety.

        นครราชสีมา           ดินแดนแห่งประตูสู่อีสานด้วยทำเลที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางของอีสานตอนใต้ และด้วยระยะทางเพียง 259 กม. จากกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าท่านจะตัดสินใจพักค้างคืนที่จังหวัดนครราชสีมาเพื่อการท่องเที่ยว เพื่อการพักผ่อน เพื่อการติดต่อธุรกิจ หรือเพื่อการประชุมสัมมนา และกำลังมองหาโรงแรมระดับมาตรฐานที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทันสมัยมีระบบรักษาความปลอดภัยที่มั่นใจได้ และตั้งอยู่ริมถนนอัษฎางค์ใจกลางเมืองโคราช ในราคาประหยัดของบริการที่หลากหลายครบวงจร ในพื้นที่กว่า 5 ไร่ ใจกลางเมืองโคราช คือ ห้องพัก ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันตามมาตรฐานสากล จำนวน 105 ห้อง พรั่งพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ทีวี ตู้เย็นขนาดเล็กพร้อมเครื่องดื่ม ระบบน้ำอุ่นในห้องอาบน้ำพร้อมด้วยอ่างอาบน้ำที่สะดวกสบาย

    เพียง 5 นาที ท่านสามารถเดินไปไหว้ขอพรย่าโม (อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี)

    เพียง 5 นาที ท่านสามารถเดินไปชมและช้อปที่ตลาดไนท์บาซ่า

    เพียง 1 นาที ท่านสามารถเดินข้ามถนนไปจับจ่ายของใช้จำเป็นที่ห้งสรรพสินค้าคลังพลาซ่า (10.00 น.- 21.00 น.)

    เพียง ครึ่ง นาที ท่านสามารถเยี่ยมร้านสะดวกซื้อ FAMILY MART ด้านหน้าโรงแรม ฯ ( เปิด 24 ชั่วโมง )

       Nakhonratchasima which situates at the heart of Southern Isan and just 259 km. away from Bangkok is the gateway to Isan.   On any trip you are,touring,spending holidays,business or conference and seminar,Korathotel is the best one you are looking for. On 5 rai area this is standard hotel  with good security system and  all conveniences like T.V.,mini fridge with beverages, hot water and bathtub. Moreover it is on Assadang road at the heart of the city. All of these you can get in economy price.
      Just 5 minute walk you can go to pay homage Ya Mo (Tao Suranaree Monument).
      Just 5 minute walk you can shop at Night Bazaar Market.
      Just 1 minute walk you can shop at Klang Plaza Departmentstore(open 10.00
    -21.00).
      And just half minute walk you will see the convenient store (Family Mart) in front of the hotel.
      KR coffee corner is recommended. Here you can jazz up your any time of the day with rich taste and scent fresh coffee in garden-like atmosphere.

       

    โรงแรม ที่พักและอาหารเช้า, รีสอร์ต, เก้สเฮาส์และที่พักราคาประหยัดอื่นๆ รวมถึงโฮมสเตย์ เซอร์วิสอพาทเม้นท์ ห้องพัก บ้านพัก ลานกางเต๊นท์ กิจกรรมท่องเที่ยว ทัวร์ ตั๋วโดยสาร ตั๋วต่างๆ ไกด์ นำเที่ยว www.teepaklakroi.tk mujryds]ydihvp ที่พักหลักร้อย โรงแรม รีสอร์ท จองเดี๋ยวนี้ ราคาพิเศษ เฉพาะจองผ่านเว็บ เท่านั้น (ถูกกว่าใคร ถูกกว่า Walking แน่นอน :)
  • Teepaklakroi
  • Hotels Booking .Biz
  • ที่พักหลักร้อย
  • ท้าวสุรนารี Thao Suranari ย่าโม ( ย่าโมไม่มีจริง ) ข่าวลับ

    ท้าวสุรนารี (อักษรละติน: Thao Suranari) หรือ ย่าโม (พ.ศ. 2314พ.ศ. 2395) บุคคลในประวัติศาสตร์ไทย ในฐานะวีรสตรีผู้กอบกู้เมืองนครราชสีมาจากกองทัพของเจ้าอนุวงศ์ พระมหากษัตริย์แห่งเวียงจันทน์ เมื่อปี พ.ศ. 2369 อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันได้เกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่าท้าวสุรนารีมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ เนื่องจากเรื่องราวของท้าวสุรนารีพบในหลักฐานเป็นบันทึกที่ออกเผยแพร่ภาย หลัง พ.ศ. 2475 เท่านั้น
                                
    ท้าวสุรนารี มีนามเดิมว่า "โม" (แปลว่า ใหญ่มาก)หรือ ท้าวมะโหโรง เป็นชาวเมืองนครราชสีมาโดยกำเนิด เกิดเมื่อปีระกา พ.ศ. 2314 สมัยกรุงเทพ มีนิวาสถานอยู่ ณ บ้านตรงกันข้ามกับวัดพระนารายณ์มหาราช (วัดกลางนคร) ทางทิศใต้ของเมืองนครราชสีมา[1] เป็นธิดาของนายกิ่มและนางบุญมา มีพี่สาวหนึ่งคนชื่อ แป้นาผล ไม่มีสามี จึงอยู่ด้วยกันจนวายชนม์ มีน้องชายหนึ่งคน ชื่อ จุก(ภายหลังได้เป็น เจ้าเมืองพนมซร๊อก ต่อมามีการอพยพชาวเมืองพนมซร๊อก มาอยู่ ริมคูเมืองนครราชสีมาด้านใต้ จึงเอาชื่อเมือง พนมซร๊อก มาตั้งชื่อ บ้านพนมศรก ต่อมาเรียกเพี้ยนเป็น บ้านสก อยู่หลังสถานีรถไฟชุมทางถนนจิระ จนทุกวันนี้)[1]
    เมื่อปี พ.ศ. 2339 โม เมื่ออายุได้ 35 ปี ได้แต่งงานสมรสกับนายทองคำขาว พนักงานกรมการเมืองนครราชสีมา ต่อมานายทองคำขาว ได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น "พระภักดีสุริยเดช" ตำแหน่งรองปลัดเมืองนครราชสีมา นางโม จึงได้เป็น คุณนายโม และต่อมา "พระภักดีสุริยเดช" ได้เลื่อนเป็น "พระยาสุริยเดช" ตำแหน่งปลัดเมืองนครราชสีมา คุณนายโมจึงได้เป็น คุณหญิงโม [1] ชาวเมืองนครราชสีมาเรียกท่านทั้งสองเป็นสามัญว่า "คุณหญิงโม" และ "พระยาปลัดทองคำ" ท่านเป็นหมันไม่มีทายาทสืบสายโลหิต ชาวเมืองนครราชสีมาทั้งหลายจึงพากันเรียกแทนตัวคุณหญิงโมว่า แม่ มีผู้มาฝากตัวเป็นลูก-หลานกับคุณหญิงโมอยู่มาก ซึ่งเป็นกำลัง และอำนาจส่งเสริมคุณหญิงโมให้ทำการ ใดๆ ได้สำเร็จเสมอ หนึ่งในลูกหลานคนสำคัญ ที่มีส่วนร่วมกับคุณหญิงโม เข้ากอบกู้เมืองนครราชสีมาจากกองทัพเจ้าอนุวงศ์ เวียงจันทน์ ณ ทุ่งสัมฤทธิ์ คือ นางสาวบุญเหลือ[1]
    ท้าวสุรนารี เป็นคนมีสติปัญญาหลักแหลม เล่นหมากรุกเก่ง มีความชำนาญในการขี่ช้าง ขี่ม้า มีม้าตัวโปรดสีดำ และมักจะพาลูกหลาน ไปทำบุญที่วัดสระแก้วเป็นประจำเสมอ[1]ท้าวสุรนารี ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อเดือน เมษายน พ.ศ. 2395 (เดือน 5 ปีชวด จัตวาศก จศ. 1214) สิริรวมอายุได้ 81 ปี


    วีรกรรมของคุณหญิงโมนั้นเป็นที่คนไทยรุ่นหลังทราบดีว่า เมื่อพุทธศักราช 2369 เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ เป็นกบฏต่อกรุงเทพมหานคร ยกกองทัพเข้ามายึดเมืองนครราชสีมาได้ แล้วกวาดต้อนครอบครัวชาวนครราชสีมาไป คุณหญิงโม และนางสาวบุญเหลือ ได้รวบรวมครอบครัวชาย หญิงชาวนครราชสีมาที่ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย เข้าต่อสู้ฆ่าฟันทหารลาวล้มตายเป็นอันมาก ณ ทุ่งสัมฤทธิ์ แขวงเมืองนครราชสีมา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พุทธศักราช 2369 ช่วยให้ฝ่ายไทยสามารถกอบกู้เมืองนครราชสีมากลับคืนมาได้ในที่สุด
    เมื่อความทราบไปถึง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาคุณหญิงโม ขึ้นเป็น ท้าวสุรนารี เมื่อ วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2370 เมื่อคุณหญิงโมมีอายุได้ 57 ปี พร้อมกับพระราชทานพระราชทานเครื่องยศ มีต่อไปนี้[ต้องการอ้างอิง]
    • ถาดทองคำใส่เครื่องเชี่ยนหมาก 1 ใบ
    • จอกหมากทองคำ 1 คู่
    • ตลับทองคำ 3 ใบเถา
    • เต้าปูนทองคำ 1 ใบ
    • คนโท และขันน้ำทองคำอย่างละ 1 ใบ
    ในปี พ.ศ. 2524 คือเมื่อวันที่ 5 เมษายน เวลา 14.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ท่ามกลางพสกนิกร ที่เข้าเฝ้าถวายความจงรักภักดีอย่างเนื่องแน่น ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานบรมราโชวาทมีความตอนหนึ่งว่า
           .ท้าวสุรนารี เป็นผู้ที่เสียสละเพื่อให้ประเทศชาติได้อยู่รอดปลอดภัย
    ควรที่อนุชนรุ่นหลัง จะได้ระลึกถึงคุณงามความดีของท่าน
    บ้านเมืองทุกวันนี้เป็นสิ่งที่ต้องหวงแหน การหวงแหน คือ ต้องสามัคคี
    รู้จักหน้าที่ ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ชาวนครราชสีมาได้แสดงพลังต้องการ
    ความเรียบร้อย ความสงบ เป็นปัจจัยสำคัญทำให้ชาติกลับปลอดภัยอีกครั้งหนึ่ง
    แม้ว่าสถานการณ์รอบตัวเราและรอบโลก จะผันผวนและ ล่อแหลมมาก
    แต่ถ้าทุกคนเข้มแข็ง สามัคคี กล้าหาญ และเอื้อเฟื้อต่อกันชาติก็จะมั่นคง....
     
        พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี
    อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีบนฐานอนุสาวรีย์เดิม พ.ศ. 2477
    กู่อัฐิท้าวสุรนารี วัดพระนารายณ์มหาราช
    เมื่อท้าวสุรนารี ถึงแก่อสัญกรรม เมื่อปีพุทธศักราช 2395 อายุ 81 ปี เจ้าพระยามหิศราธิบดีผู้เป็นสวามี ได้ฌาปนกิจศพ และสร้างเจดีย์บรรจุอัฐิไว้ ณ วัดศาลาลอยซึ่งท้าวสุรนารีได้สร้างไว้ เมื่อเวลาผ่านไปเจดีย์ชำรุดลง พลตรีเจ้าพระยาสิงหเสนี (สอาด สิงหเสนี) ครั้นเมื่อยังเป็น พระยาประสิทธิศัลการ ข้าหลวงเทศาภิบาล ผู้สำเร็จราชการเมืองนครราชสีมา องคมนตรี และรัฐมนตรี ได้บริจาคทรัพย์สร้างกู่ขนาดเล็ก บรรจุพระอัฐิท้าวสุรนารีขี้นใหม่ที่วัดกลาง (วัดพระนารายณ์มหาราช) สร้างเสร็จเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ร.ศ.118 (พ.ศ. 2442)
    ต่อมากู่นั้นได้ทรุดโทรมลงมาอีก อีกทั้งยังอยู่ในที่แคบ ไม่สมเกียรติ พระยากำธรพายัพทิศ (ดิส อินทรโสฬส) ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายพันเอกพระเริงรุกปัจจามิตร (ทอง รักสงบ) ผู้บังคับการมณฑลทหารบกที่ 5 พร้อมด้วยข้าราชการ และประชาชนชาวนครราชสีมา ได้พร้อมใจกันสร้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีด้วยสัมฤทธิ์ ซึ่งทางกรมศิลปากรได้มอบให้ ศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี เป็นผู้ออกแบบร่วมกับ พระเทวาภินิมมิตร (ฉาย เทียมศิลปไชย) ประติมากรเลื่องชื่อในสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม
    พิธีเปิดอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี
    บนฐานอนุสาวรีย์ใหม่
    ปี พ.ศ. 2510
    ทั้งนี้ได้อัญเชิญอัฐิของท่านนำมาบรรจุไว้ที่ฐานรองรับ และประดิษฐานไว้ ณ ที่หน้าประตูชุมพล อนุสาวรีย์หล่อด้วยทองแดงรมดำ สูง 1.85 เมตร หนัก 325 กิโลกรัม ตั้งอยู่บนฐานไพที สี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสองซึ่งบรรจุอัฐิของท่าน แต่งกายด้วยเครื่องยศพระราชทาน ในท่ายืน มือขวากุมดาบ ปลายดาบจรดพื้น มือซ้ายท้าวสะเอว หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ซึ่งเป็นทิศที่ตั้งของกรุงเทพมหานคร นับเป็นอนุสาวรีย์ของสามัญชนสตรี คนแรกของประเทศ เริ่มก่อสร้างในปี 2476 แล้วเสร็จ และ มีพิธีเปิดอนุสาวรีย์เมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2477[3]
    ในงานพิธีเปิดนี้ จึงได้มีการสร้างเหรียญไว้เป็นที่ระลึก โดยมี สมเด็จมหาวีรวงศ์ (ติสโส อ้วน) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และพระคณาจารย์สายพระอาจารย์มั่น - พระอาจารย์เสาร์ ร่วมพิธีปลุกเสกที่ วัดสุทธจินดา ชาวเมืองนครราชสีมารัก และหวงแหนเหรียญรุ่นนี้กันมาก เพราะถือกันว่านี่คือ เหรียญแห่งชัยชนะ เพื่อศรีสง่าแห่งบ้านเมือง และเชิดชูเกียรติ ท้าวสุรนารี วีรสตรีไทยตลอดกาล[4] และทางกรมศิลปากร ได้ขึ้นทะเบียนอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เป็นโบราณสถานวัตถุแห่งชาติ เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2480[5]
    ครั้นเมื่อปี พ.ศ. 2510 ฐานอนุสาวรีย์ชำรุด ข้าราชการ และประชาชนชาวนครราชสีมา โดยนายสวัสดิวงศ์ ปฏิทัศน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดในขณะนั้น เป็นประธาน ได้ร่วมใจกันสร้าง ฐานอนุสาวรีย์บรรจุอัฐิท้าวสุรนารี ขึ้นใหม่ ณ ที่เดิม เพื่อให้เป็นศรีสง่าแก่บ้านเมือง และเชิดชูเกียรติท้าวสุรนารี วีรสตรีไทยตลอดกาลนาน แล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2510
      
        ทางจังหวัดนครราชสีมา หน่วยงานราชการต่าง ๆ รวมทั้งประชาชนชาวนครราชสีมา ได้การจัด งานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารี (คุณหญิงโม) เป็นงานประจำปีของจังหวัด เพื่อเป็นการเคารพสักการะ เชิดชูเกียรติ ในวีรกรรมของท้าวสุรนารี และเหล่าบรรพบุรุษของชาวนครราชสีมา จัดขึ้นบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด กำหนดจัดระหว่างวันที่ 23 มีนาคม - 3 เมษายน ของทุกปี
     
        

    ข้อขัดแย้ง

    วีรกรรมท้าวสุรนารี กล่าวถึงในจดหมายเหตุเรื่องปราบกบฏเวียงจันทน์ พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2469
    ในหลักฐานร่วมสมัยอย่างจดหมายเหตุนครราชสีมาระบุบคำให้การขุนโอฐบันทึกในใบบอกว่า "เวลา เช้าตรู่ พระยาปลัด พระยายกกระบัตร กรมการต่างคนต่างยิงปืนคนละนัด พวกครัวก็เข้าฟันแทง ทั้งพระสงฆ์ เถร เณร ผู้หญิงในครัว หนุนโห่ร้องไล่อ้ายลาวแตก" และ คำให้การอ้ายพระยานรินทร์แม่ทัพลาวที่ถูกจับ อ้างพระราชดำรัสเจ้าอนุวงศ์ว่า "อ้ายอนุ บอกข้าพเจ้าว่าครัวเมืองโคราชซึ่งให้เพี้ยรามพิชัยคุมไพร่ 200 คนไปถึงบ้านสัมริด พวกครัวฆ่านายไพร่ตายเสียหมดแล้ว ให้อ้ายสุทธิสารคุมไพร่ 2,000 คน มีปืน 200 บอกยกไปรบกับครัวโคราช ณ บ้านสำริด อ้ายสุทธิสารแตกหนีมา พวกครัวฆ่านายไพร่ตายเป็นอันมาก" ซึ่งไม่มีการกล่าวถึงวีรกรรมของคุณหญิงโม แต่มีการกล่าวถึงวีรกรรมดังกล่าวในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3 และ จดหมายเหตุเรื่องปราบกบฏเวียงจันทน์[7] รวมทั้งมีปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์ลาวที่แต่งโดยมหาสิลา วีละวง ส่วนเรื่องนางสาวบุญเหลือยังไม่พบปรากฏในหลักฐานที่เป็นบันทึกใด ๆ ยกเว้นเรื่องราวที่นำออกเผยแพร่หลังปี พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา
    ในเรื่องนี้เป็นประเด็นถกเถียงอย่างกว้างขวางในปี พ.ศ. 2536 เมื่อหนังสือ การเมืองในอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ถูกตีพิมพ์ซึ่งหนังสือดังกล่าวปรับปรุงจากวิทยานิพนธ์เรื่อง "ภาพลักษณ์ท้าวสุรนารีในประวัติศาสตร์ไทย" โดย สายพิน แก้วงามประเสริฐ นักศึกษาปริญญาโท ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิทยานิพนธ์ดีเด่นของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เรื่องนี้ ได้นำเสนอหลักฐานอย่างรอบด้านว่าคุณหญิงโมไม่ น่าจะมีตัวตนอยู่จริง พร้อมทั้งตั้งคำถามว่าวีรกรรมต่าง ๆ นั้นเกิดขึ้นจริงหรือไม่ รวมทั้งการสร้างเร่งรีบสร้างอนุเสาวรีย์นั้นเพื่อประโยชน์ทางการเมืองในสมัย จอมพล ป. หรือไม่ การตั้งคำถามที่ท้าทายความเชื่อของคนในพื้นที่ ทำให้ผู้เขียนถึงขนาดถูกข่มขู่เอาชีวิตและห้ามเข้าจังหวัดนครราชสีมา[8][9]
    อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจนที่ชี้ว่าเกิดการต่อสู้ระหว่างชาวนครราชสีมาและกองกำลังลาวขึ้นจริง[10] และส่งผลให้เจ้าอนุวงศ์ต้องถอยทัพจากโคราชก่อนกำหนด[11] ถึงกระนั้น ตามทัศนะของ ร.ศ.ศรีศักดิ์ วัลลิโภดม วีรกรรมที่ทุ่งสัมฤทธิ์อาจเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นภายหลัง โดยมีฉากหลังเป็นวีรกรรมของการร่วมแรงร่วมใจสู้รบของชาวนครราชสีมา โดยความจริงแล้ว ท้าวสุรนารี เป็นบุคคลที่เป็นผู้นำทางวัฒนธรรม เป็นบุคคลที่ชาวบ้านให้การยอมรับนับถือ จึงมีการแต่งเรื่องราวขึ้นภายหลัง เช่นเดียวกับพญาแถนของประเทศลาว เป็นต้น[12] แต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 ก็มีเรื่องเล่าถึงวีรกรรมของท้าวสุรนารีอย่างแพร่หลายแล้ว[13] ซึ่งงานวิจัยของสายพิณ แก้วงามประเสริฐกลับละเลยที่จะกล่าวถึงประเด็นดังกล่าว
    แต่ถึงกระนั้นคนลาวฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงและชาวล้านนาบางส่วนก็เกลียดชังท้าวสุรนารี

     

    อ้างอิง

    1. ^ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 ประวัติท้าวสุรนารี
    2. ^ ฐานข้อมูลบุคคลสำคัญ " ท้าวสุรนารี ", สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
    3. ^ วันนี้ในอดีต
    4. ^ ประวัติและเหรียญท้าวสุรนารีรุ่นแรก
    5. ^ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณสำหรับชาติ, เล่มที่ ๕๔, เล่มที่ ๒๒๘๕
    6. ^ จารึกประวัติการสร้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (หลังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี), เทศบาลนครนครราชสีมา, นครราชสีมา, 2530
    7. ^ จดหมายเหตุเรื่องปราบกบฏเวียงจันทน์
    8. ^ หนังสือต้องห้าม ความรู้ที่ถูกจองจำ ฉบับที่ 260 ตุลาคม 49 ปีที่ 22
    9. ^ จากจิ๋นซีถึง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ฉบับที่ 260 ตุลาคม 49 ปีที่ 22
    10. ^ จดหมายเหตุนครราชสีมา
    11. ^ จากเวียงจันทน์ถึงบางกอกตามรอยเจ้าอนุวงศ์ คลี่ปมประวัติศาสตร์ไทย-ลาว,นิตยสาร สารคดี ฉบับที่ 291 พฤษภาคม 2552,หน้า 138-141
    12. ^ รายการพินิจนคร ตอน นครราชสีมา...รากแห่งนคราย่าโม ตำนานของคนโคราช : 4 มกราคม พ.ศ. 2553 ทางทีวีไทย
    13. ^ อานามสยามยุทธ , ก.ศ.ร. กุหลาบ

    [แก้] แหล่งข้อมูลอื่น

    www.teepaklakroi.tk mujryds]ydihvp ที่พักหลักร้อย โรงแรม รีสอร์ท จองเดี๋ยวนี้ ราคาพิเศษ เฉพาะจองผ่านเว็บ เท่านั้น (ถูกกว่าใคร ถูกกว่า Walking แน่นอน :)